หากคุณเป็นแฟนของเครื่องดื่ม กาแฟเย็น ๆ ทุกๆปีคุณคงจะรอแทบไม่ไหวให้อากาศเริ่อุ่นขึ้น เพื่อออกไปทีร้านกาแฟร้านโปรดของคุณในตอนเช้า และซื้อกาแฟที่สดชื่นสักแก้วเป็นสิ่งแรกของวัน (ถ้าหากคุณเป็นคนที่รักในกาแฟเย็นเหมิอนผม คุณก็คงจะสามารถดื่มมันได้ตลอดปี)
เมื่อคุณเดินทางไปที้รานกาแฟร้านโปรดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นร้านใหญ่ๆอย่างเช่น Starbucks หรือ Dunkin’ Donuts หรือจะเป็นร้านกาแฟเล็กๆก็ตาม คุณคงจะได้เห็นทั้งกาแฟเย็นและ กาแฟสกัดเย็นนั้นอยู่ในเมนูของร้าน, แม้ว่าทั้งกาแฟเย็น และกาแฟสกัดเย็นจะเป็นเครื่องดื่มที่เย็นเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีลักษณะที่คล้ายกันหากมองแบบผิวเผิน แต่กาแฟทั้งสองชนิดนี้ก็มีความแตกต่างกันต่อบ้าง อ่านต่อไปเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับความแตกต่างของกาแฟทั้ง 2ชนิดนี้ รวมถึงวิธีการทำ, รสชาติ และอื่นๆ
กาแฟเย็นและกาแฟสกัดเย็นแตกต่างกันอย่างไร?
ข้อแตกต่างหลักๆของกาแฟเย็น และ กาแฟสกัดเย็น คือวิธีในการทำ
วิธีการเตรียม
กาแฟเย็นนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นกาแฟสกัดร้อน หรือกาแฟดริปซึ่งจะเสิร์ฟในแก้วที่เติมน้ำแข็ง โดยวิธีการทำนั้นจะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
กาแฟสกัดเย็น หรือ กาแฟ Cold brew นั้น จะใช้การสะกัดกาแฟบดละเอียดในน้ำเย็น โดยจะใช้เวลาปประมาณ 12 ถึง 18 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นแล้วนำมากรอง โดยกาแฟที่ผ่านการกรองแล้วนั้นจะถูกนำไปแช่เย็น ก่อนที่จะเสิร์ฟในแก้วที่มีน้ำแข็งต่อไป
กลิ่นและรส
AJ Walzer ผู้ร่วมก่อตั้ง และหัวหน้าแผนกพัฒนาธุรกิจของ Palor Coffee ใน Brooklyn, New York ได้กล่าวไว้ว่า ทั้งกาแฟเย็น และกาแฟสกัดเย็นนั้น มีความแตกต่างกันทางด้านรสชาติ
Walzer อธิบายรสสัมผัสของกาแฟสกัดเย็นว่า มีรสชาติที่เข้มข้น ได้รับรสสัมผัสทั่วปาก และมีควาเป็นกรดอ่อนๆ ในขณะที่กาแฟเย็นนั้นจะมีรสชาติที่จางกว่ากาแฟสกัดเย็น แต่ก็มีความเป็นกรดที่สูงกว่า
ลักษณะ
ในบางครั้งจะสังเกตุเห็นได้ว่ากาแฟสกัดเย็นนั้นมีสีที่เข้มกว่ากาแฟเย็น เนื่องจากความเข้มข้นที่มากกว่า นอกจากนี้ยังมีราคาที่สูงกว่า เพราะต้องใช้เวลาในการทำมากกว่าอีกด้วย
กาแฟสกัดเย็นมีความแรงมากกว่ากาแฟเย็นหรือไม่?
เมื่อพูดถึงปริมาณคาเฟอีนแล้ว ในกาแฟสกัดเย็นนั้นจะมีปริมาณของคาเฟอีนที่สูงกว่ากาแฟเย็นทั่วไป โดยมีสาเหตุหลักๆคือ กาแฟสกัดเย็นนั้น จะใช้กาแฟ เมื่อเทียบสัดส่วนกาแฟต่อน้ำสูงกว่า ปริมาณที่ใช้ในกาแฟเย็น นั่นจึงทำให้ กาแฟสกัดเย็นมีปริมาณของคาเฟอีนสูงกว่าในกาแฟปริมาณเท่ากัน
ด้วยเหตุผลนั้น Walter อธิบายว่า ปริมาณของคาเฟอีนนั้น จะขึ้นอยู่กับปริมาณของกาแฟที่ใช้ และปริมาณการเจือจางเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าเป็น “กาแฟสกัดเย็นเข้มข้น” จะมีความแรงมากกว่า และผ่านการเจือจางน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ “กาแฟสกัดเย็น” (โดยจากที่ระบุไว้ กาแฟสกัดเย็นเข้มข้นนั้นควรจะทำการเจือจางก่อนที่จะนำมาเสิร์ฟ)
กาแฟเย็นมีรสชาติที่แตกต่างจากกาแฟสกัดเย็นหรือไม่
รสชาติของกาแฟเย็นและ กาแฟสกัดเย็นนั้น อาจจะมีความแตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับว่าคุณจะถามใคร โดยผู้คนจำนวนมากได้อธิบายว่า กาแฟสกัดเย็นนั้น จะมีความหวานและนุ่มละมุนกว่า กาแฟดำเย็น โดยส่วหนึ่งเกิดจากการที่กาแฟสกัดเย็นนั้น จะทำด้วยน้ำที่อุณหภูมิห้อง หรือน้ำเย็น นอกจากนี้ กาแฟสกัดเย็นจะมีรสชาติของความเป็นกรดที่น้อยกว่า และยังมีความขมที่มากกว่ากาแฟเย็นอีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่บางคนจะเลือกที่จะดื่มกาแฟสกัดเย็นที่ใส่นม ครีม หรือสิ่งให้ความหวานเพียงเล็กน้อย หรือไม่ใส่เลย ส่วนกาแฟเย็นนั้นจะมีรสชาติเหมือนกับกาแฟสกัดร้อน เพียงแค่ว่ามีความเย็นกว่าเท่านั้น
Walzer ยังได้อธิบายเสริมด้วยว่า กาแฟเย็นบางประเภทนั้น จะมีกลิ่นรสของ กรด ดอกไม้ และผลไม้ด้วย